การสต็อกยาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสำหรับร้านขายยา [1]
การสต็อกยาเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการบริหารจัดการร้านขายยา เพื่อให้มียาเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ไม่ขาดสต็อก แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่สต็อกยามากเกินไปจนเกิดปัญหายาหมดอายุ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของร้านขายยา วิธีการสต็อกยาอย่างมีประสิทธิภาพมีดังนี้
1. ใช้ระบบบริหารสินค้าคงคลัง
ร้านขายยาควรนำระบบบริหารสินค้าคงคลัง (Inventory Management System) มาใช้ในการจัดการสต็อกยา ระบบนี้จะช่วยติดตามปริมาณยาคงเหลือ แจ้งเตือนเมื่อยาใกล้หมด และคำนวณปริมาณการสั่งซื้อยาที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากข้อมูลการขายในอดีต ทำให้สามารถสต็อกยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากการขาดสต็อกหรือสต็อกมากเกินไป
2. กำหนดจุดสั่งซื้อยา (Reorder Point)
ร้านขายยาควรกำหนดจุดสั่งซื้อยา (Reorder Point) ซึ่งเป็นระดับปริมาณยาขั้นต่ำที่เมื่อถึงจุดนี้แล้วจะต้องสั่งซื้อยาเพิ่ม โดยคำนึงถึงอัตราการใช้ยาเฉลี่ยต่อวันและระยะเวลาในการจัดส่งยาจากผู้ผลิต การกำหนดจุดสั่งซื้อยาที่เหมาะสมจะช่วยให้ร้านขายยามียาเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ โดยไม่ต้องสต็อกยาไว้มากเกินความจำเป็น
3. หมุนเวียนสต็อกยาแบบ First-Expire-First-Out (FEFO)
ยาเป็นสินค้าที่มีอายุจำกัด ร้านขายยาจึงต้องบริหารจัดการสต็อกยาแบบ First-Expire-First-Out (FEFO) กล่าวคือ ยาที่มีวันหมดอายุก่อนจะต้องถูกนำออกมาขายก่อน เพื่อป้องกันปัญหายาหมดอายุค้างสต็อก ซึ่งจะกลายเป็นขยะและสูญเสียเงินทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ การจัดวางยาบนชั้นวางให้ยาที่ใกล้หมดอายุอยู่ด้านหน้า จะช่วยให้หยิบยาออกมาขายได้ถูกต้องตามหลัก FEFO
4. ทบทวนรายการยาสต็อกอย่างสม่ำเสมอ
ร้านขายยาควรทบทวนรายการยาที่สต็อกไว้เป็นประจำ เพื่อปรับปริมาณให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป โดยพิจารณาจากข้อมูลการขายยา รวมถึงเทรนด์ความนิยมของยาแต่ละชนิด ยาที่มียอดขายต่ำหรือไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน อาจต้องพิจารณาลดปริมาณลงหรือเลิกสต็อก เพื่อลดความเสี่ยงจากยาหมดอายุ ขณะเดียวกันก็เพิ่มปริมาณยาที่มียอดขายดีให้เพียงพอ การปรับสต็อกยาให้เหมาะสมอยู่เสมอจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารคลังยาของร้านขายยา
การสต็อกยาอย่างมีประสิทธิภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ร้านขายยาประสบความสำเร็จ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ช่วยควบคุมต้นทุนและลดความสูญเสียจากยาหมดอายุ ร้านขายยาจึงควรให้ความสำคัญและพัฒนาระบบการสต็อกยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางธุรกิจร้านขายยาที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน